การดูแลรักษาระบบเบรคง่ายๆ
Carguru-bysetthi
ฟอร์ดพัทลุง จ.วินิตสามเเยกโคกกอก
หน้าที่ของเบรคคือ!! การชลอหรือหยุดรถ หรือทำให้การเคลื่อนไหวของรถช้าลงตามความต้องการตลอดเวลาขับขี่เพราะฉะนั้นเบรคจึงเป็นปัจจัยพื้นฐานในการผลิตรถเเละการขับขี่รถนั่นเอง เพราะหากไม่มีเบรคกรือเบรคคุณภาพไม่ดีอุบัติเหตุก็จะตามมาการสูญเสียชีวิตก็จะเกิดขึ้น. เพราะฉนั้น เบรค สำคัญมาก!
เบรคที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันมี 2 ประเภท
1. เเบบดรัมเบรคในส่วนของดรัมเบรคจะมีลักษณะเป็นแผ่นผ้าเบรค สองแผ่นดันบริเวณจานเบรคเพื่อเสียดทาน โดยลูกสูบจะเป็นตัวดันป้าเบรคทั้งสองเเป่นขยายไปเสียดสีกับจานเบรคจึงช่วยในการหยุดรถ หรือชลอรถ
2.ดิสก์เบรค เป็นระบบเบรคที่นิยมใช้กันมาก อาจจะเป็นระบบดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ หรือ2 ล้อหน้าเป็นดิสก์ เบรค 2 ล้อหลังเป็นดรัมเบรคเเล้วเเต่การออกเเบบเเละลักษณะการใช้งานของรถรุ่นนั้นๆ ระบบการทำงานของดิสก์เบรคจะแยกการทำงานกันคนละส่วนเป็นอิสระต่อกัน โดยจะมีปั้มดิสก์คอยดันลูกสูบเพื่อไปดันป้าเบรคให้หนีบจานเบรคอีกทีนึงเพื่อทำการชลอกรือหยุดรถ "ความเเตกต่างก็คือดรัมขยายผ้าเบรคไปเสียดสีกันจานเบรคเเต่ดิสก์ดันผ้าเบรคไปหนีบจานเบรค"
ไฮไลท์ที่จะเอามาฝากคือ ในรถยนต์ ford focus 1.5 ecoboot เเละ everest มีเทคโนโลยีที่พัฒนามากระบบเบรค.ซึ่งสามารถเพิ่มความปลอดภัยเเละความสะดวกสะบายให้ผู้ขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น คือ
ระบบ active city stop หรือระบบช่วยเบรคเมื่อเจอวัตถุ
การดูเเลระบบเบรคหลักๆที่ จะทำให้เบรคมีประสิทธิภาพคือ "น้ำมันเบรค" นับว่าเป็นส่วนสำคัญนับจากชิ้น ส่วนอื่นๆที่ใช้ร่วมกัน ในระบบเบรค เเละเป็นสิ่งที่คนใช้รถทั่วไปดูเเลด้วยตัวเองได้ง่ายๆ การดูระดับของน้ำมันเบรคไม่ยาก คอยดูแลไม่ให้ลดลงกว่าระดับมาตรฐาน น้ำมันเบรคหาซื้อง่ายจะมีขายอยู่ตาทั่วไป หรือถ้าเพื่อความชัวร์ซื้อที่ศูนย์บริการของรถยี่ฮ้อนั้นๆ นับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด
วิธีตรวจเช็กน้ำมันเบรคเบื้องต้น
ขั้นตอนการเติมน้ำมันเบรค
1. เปิดฝากระโปรงรถยนต์ให้ได้ก่อน
2.กระปุกน้ำมันเบรคจะติดอยู่บริเวณตัวถังรถในส่วนด้านในสุดให้เช็คระบบของน้ำมันเบรคว่าในกระปุก อยู่ในระดับไหน ถ้าอยู่ระดับ MAX ก็ไม่ต้องเติม แต่ถ้าอยู่ในระดับ MIN ต้องเติม เเละเติมให้ถึง MAX ก็พอไม่ต้องเกิน เพราะจะทำให้น้ำมันเบรคกระฉอกเวลารถวิ่ง ซึ่งอาจทำให้ชิ้นส่วนรถที่เป็นสีโดนน้ำมันเบรคกันเสียหายได้
3. ก่อนเปิดฝากระปุกน้ำมันเบรคให้เช็ดทำความสะอาดบริเวณฝาปิด-เปิดเสียก่อน เพื่อไม่ให้ฝุ่นหรือเศษวัสดุเเปลกปลอมต่างๆตกลงไปในกระปุกซึ่งอาจทำใหระบบเบรคด้อยประสิทธิภาพหรือเสียหายได้
4.เมื่อเติมน้ำมันเบรคเรียบร้อยเเล้วปิดฝาให้เรียบร้อย ก่อนปิดฝาต้องทำความสะอาดบริเวณฝาปิด เพื่อไม่ให้ฝุ่นหรือเศษวัสดุตกลงไปในระบบเบรค
การดูแลรัษาระดับน้ำมันเบรคนั้นดูเเลง่ายสามารถดูด้วยตาเปล่าได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดให้วุ่นวายเเต่ควรดูแลบ่อยๆอย่าทิ้งไว้นาน เผื่อปริมาณน้ำมันเบรคจะลดลงเพราะบางครั้ง น้ำมันเบรคจะลดลงไปชดเชยผ้าเบรคที่บางลง จึงต้องหมั่นดูแล
"เนื่องจากน้ำมันเบรคสามารถทำปฏิกิริยากับสีรถได้ เพราะฉนั้นเมื่อทำหกลงบริเวณตัวถังรถรีบเช็ดให้แห้งทันทีเเละเอาน้ำเปล่ามาราดให้ไวที่สุด อย่าปล่อยไว้เพราะจะทำให้สีหลุด ลอกได้และห้ามวางขวดน้ำมันเบรคบนฝากระโปรงรถอย่างเด็ดขาดเผื่อพลาดมือไปโดนหกใส่ เสียหายยาวเลย!!
ระยะที่ควรตรวจเช็กน้ำมันเบรค
โดยทั่วๆไปน้ำมันเบรคควรจะมีการตรวจดูว่าน้ำมันเบรคลดหรือไม่เมื่อรถยนต์วิ่งได้ประมาณ 10,000-15,000 km และควรถ่ายน้ำมันเบรคเก่าออกแล้วเติมน้ำมันเบรคใหม่ลงไปแทนที่ระยะ 30,000- 40,000 km
ผ้าเบรค
ในส่วนของผ้าเบรค ไม่เเนะนำให้รื้อเบรคมาดูเองควร ยกให้เป็นหน้าที่ของช่างตรวจเมื่อครบตามเวลาหรือ ระยะทางที่กำหนดมาให้ใน คู่มือรถยนต์ เพราะเป็นส่วน ที่ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง
เบรคมือ
Carguru-bysetthi
ฟอร์ดพัทลุง จ.วินิต สามเเยกโคกกอก
074-620446,088-7910369
สาระน่ารู้ท้ายคอลัมน์เกี่ยวกับเบรค!
เบรคแบบดิสก์::จะมีประสิทธิภาพการเบรคได้ดีกว่าเบรคแบบดรัม ดิสก์สามารถหยุดรถได้ไวกว่าดรัมเเต่สมดุลการเบรคดรัมจะทำได้ดีกว่าดรัมจึงจะเหมาะกับรถบรรทุกเสียเป็นส่วนใหญ่เช่นรถกระบะหรือ นิยมใช้เบรคทั้งสองร่วมกันเพื่อป้องกันปัญหา เเละสร้างกราเบรคที่หยุดสนิทเเละมีความสมดุล เเละเผื่อว่าระบบเบรคเกิดเสียขึ้นมาส่วนใดส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ยังสามารถทำงานได้
คอลัมน์ want
Carguru-bysetthi
Facebook/setthi songkhaow
Line:id:setthi.s
ค้นหาผ่าน google เพียงพิมพ์
carguru-bysetthi
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น